เคยไหม ใช้เครื่องซักผ้าแล้วเครื่องดันหยุดทำงานกระทันหัน?
เรามีวิธีแก้ปัญหาเครื่องซักผ้าหยุดทำงานกระทัน ที่ทำได้ด้วยตนเองแบบเบื้องต้นมาฝาก เพราะบางครั้งปัญหาเครื่องซักผ้าไม่ทำงานเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราสามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังใช้งานเครื่องซักผ้าได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเสียเวลารอให้ช่างมาซ่อม
สาเหตุที่เครื่องซักผ้าหยุดทำงาน
การที่จู่ ๆ เครื่องซักผ้าหยุดทำงานกระทันหัน อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยที่เครื่องอาจไม่หมุนหรือหมุนโดยที่ฝาเครื่องซักผ้ายังไม่ปิด สิ่งที่ต้องตรวจสอบเบื้องต้น มีดังต่อไปนี้
- ปิดประตูแล้วกดปุ่ม Start / Pause ค้างไว้ เพื่อให้เครื่องเริ่มทำงานใหม่
- เมื่อเครื่องซักผ้ากลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่อาจมีกำลังไฟไม่พอ ทำให้เครื่องซักผ้าไม่ระบายน้ำออก หรือปั่นหมาดชั่วคราว
- ในกรณีที่เป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้ตรวจสอบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ เช่น เหรียญ เม็ดกระดุม กิ๊บติดผม ฯลฯ ติดอยู่ในตัวกรองเศษผง หรือมีเศษด้ายและอื่น ๆ ไปอุดตันตัวกรองเศษผงหรือไม่
- อาจเป็นไปได้ว่า เครื่องหยุดชั่วคราว ในระหว่างรอรอบการอบแห้ง เช่น โปรแกรมการซักขนสัตว์ หรือการเลือกระยะเวลาแช่ผ้าก่อนซัก
- ตรวจสอบการแสดงรหัสข้อมูลหน้าจอแสดงผลบนแผงควบคุม
- ตรวจสอบท่อระบายน้ำได้ยืดออกจนสุดสายหรือไม่
วิธีดูแลเครื่องซักผ้าให้ใช้งานได้นาน ๆ
ปัญหาเครื่องซักผ้าจะไม่เกิดขึ้น หรือมีโอกาสเกิดได้น้อย หากปฏิบัติตามวิธีใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้อง และมีการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าอย่างเหมาะสม
- อ่านวิธีการใช้เครื่องซักผ้าอย่างละเอียดโดยเฉพาะวิธีการตั้งค่าระบบการทำงานของเครื่อง
- แยกผ้าขาว ผ้าสี และผ้าที่มีรอยคราบสกปรกต่าง ๆ ออกเป็นประเภทเดียวกัน เช่น กองผ้าขาว กองผ้าสีสด กองผ้าสีมืด กองผ้ามีคราบเปื้อนซักยาก โดยห้ามซักรวมกัน เพื่อป้องกันสีตก และคราบสกปรกติดใส่ผ้าอื่น ๆ โดยเฉพาะผ้าขาว
- แยกเสื้อผ้าชิ้นเล็ก ๆ เช่น ชุดชั้นใน ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ ใส่ถุงซักผ้า เพื่อป้องกันเนื้อผ้าฉีกขาด และหลุดรุ่ยติดตามท่อระบายน้ำ จนทำให้ท่อน้ำเครื่องซักผ้าอุดตัน
- ใช้ปริมาณผงซักฟอกให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดน้ำ หรือแบบผง เพื่อป้องกันเกิดคราบไขจนทำให้ท่อน้ำทิ้งอุดตัน
- เปิดฝาเครื่องซักผ้าไว้ หลังจากใช้งานเสร็จ เพื่อระบายอากาศ และป้องกันการเกิดเชื้อราภายในเครื่องซักผ้า จนทำให้มีกลิ่นเหม็นอับ
- หมั่นทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ด้วยการนำน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมน้ำอุ่น แล้วเทลงไปในเครื่องซักผ้า จากนั้นกดปุ่มให้เครื่องทำงานปกติจนครบไซเคิล เป็นการทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้าได้อย่างดี
- ใส่เสื้อผ้าลงไปปั่นให้พอดีกับตะกร้าปั่น อย่าใส่ลงไป มากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ผ้าไม่สะอาดเพราะปั่นไม่ทั่วถึง ยังทำให้ตะกร้าปั่นผ้าเสื่อมสภาพไว เพราะรับน้ำหนักผ้ามากเกินไปบ่อย ๆ
- ให้นำผ้าในเครื่องออกไปตากทันที หลังจากเครื่องซักผ้าเสร็จ อย่าทิ้งผ้าค้างไว้ในเครื่อง เพราะจะทำให้ผ้าเกิดรา และมีกลิ่นเหม็นติดภายเครื่องซักผ้าไปด้วย
- หากเครื่องซักผ้ามีปัญหาโดยหาสาเหตุไม่ได้ หรือไม่มีความรู้วิธีแก้ไข ควรให้ช่างเครื่องไฟฟ้าโดยตรง (ประเภทช่างไฟฟ้า) หรือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการ
การใช้งานเครื่องซักผ้าและดูแลให้ถูกวิธี จะทำให้การใช้งานเครื่องซักผ้ามีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานได้นาน ไม่ต้องส่งซ่อมและเสียค่าซ่อมบำรุงรักษาบ่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเครื่องซักผ้าทำงานขัดข้องหรือมีปัญหาในการใช้งานหากเกิดจากสาเหตุที่เราสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองให้รีบทำทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามจนเกินจะแก้ไขได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถระบุสาเหตุ หรือเกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ควรส่งซ่อมกับช่างเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรง
