ประหยัดเงินและสนุกกับการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเอง

Written by 1:48 pm Lifestyle, สุขภาพ

ทำไมต้องล้างจมูก ล้างจมูกช่วยอะไร และล้างจมูกได้บ่อยแค่ไหน 

สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้หรือผู้มีปัญหาไซนัสอักเสบ ย่อมต้องเคยผ่านการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ แต่มีหลายคนที่ล้างจมูกแก้อาการหวัดด้วยน้ำเกลือเช่นกัน  ยิ่งช่วงนี้ทั้งฝุ่นละออง แถมอากาศร้อนจัด จนอาจทำให้ใครหลายป่วยไข้ ไม่สบาย และพึ่งน้ำเกลือล้างจมูกเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก และทำให้จมูกโล่ง หายใจสะดวก แต่บ่อยครั้งเข้าทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าล้างจมูกทุกวันดีไหม หรือต้องล้างประมาณไหนจึงจะไม่เกิดโทษกับโพรงจมูกหรือมีผลต่อร่างกาย วันนี้เราจะมาหาคำตอบ เพราะการล้างจมูกที่ถูกต้องนั้นสำคัญมากสำหรับในช่วงที่มีมลภาวะและสภาพอากาศเช่นนี้  

การล้างจมูกคืออะไร 

การล้างจมูก คือ การล้างทำความสะอาดโพรงจมูก เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก น้ำมูก หรือสิ่งแปลกปลอม ไซนัส ในโพรงจมูกหรือหลังโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ ให้ไหลออกมาข้างนอก หรือไหลลงคอ ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก คัน ระคายเคือง และจาม จากการถูกกระตุ้นด้วยสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น 

การล้างจมูกเหมาะกับใครบ้าง 

สามารถล้างจมูกได้ทุกเพศ ทุกวัย และทุกคน ทั้งผู้ป่วย และผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอาการภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ โรคหวัด คัดจมูก ไซนัส หรือผู้ที่ได้รับการผ่าตัดไซนัส และฉายแสงบริเวณจมูก 

ล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร 

  • บรรเทาอาการหวัด ระคายเคือง หรือคัดจมูก 
  • ชำระล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกจากโพรงจมูก 
  • ระบายหนองจากไซนัส บรรเทาอาการไซนัสอักเสบ 
  • ลดจำนวนเชื้อโรค ฝุ่นละออง สารพิษ สารเคมี สารก่อภูมิแพ้ ในโพรงจมูก 
  • ชะล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุจมูก หรือ ไซนัส หลังการผ่าตัดจมูก ป้องกันการเกิดผังผืดสาเหตุที่ทำให้ไซนัสอักเสบ 
  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือก่อนพ่นยาหรือหยอดยา จะช่วยให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากได้สัมผัสกับเยื่อบุจมูกโดยไร้สิ่งกีดขวาง และทำให้ลดการใช้ปริมาณยาที่ใช้ในการรักษาไซนัสหรือโรคจมูก 
  • ช่วยป้องกันไมให้เชื้อโรคในจมูกหรือไซนัสลุกลามไปยังหูชั้นกลางหรือลงปอด 
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก หายใจโล่ง สะอาด 
  • ช่วยขจัดเสมหะในลำคอ 

เมื่อไรที่ต้องล้างจมูก 

เมื่อรู้สึกมีน้ำมูกเหนียวข้น คัดแน่นจมูก สูดหายใจไม่สะดวก มีเสมหะในลำคอ ไซนัสโพรงจมูก หรือหายใจเอาฝุนควัน สารพิษ สารเคมี 

ควรล้างจมูกบ่อยแค่ไหน 

แนะนำให้ล้างจมูกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ หลังตื่นนอน และ ก่อนเข้านอน หรือเมื่อรู้สึกหายใจไม่สะดวก มีน้ำมูก ระคายเคือง คันในโพรงจมูก หายใจเอาฝุ่นควัน มลพิษ สารเคมีต่าง ๆ เริ่มมีอาการไซนัสอักเสบ เช่น มีเสมหะในลำคอ หรือรู้สึกมีกลิ่นเหม็นไหม้ในจมูก และก่อนใช้ยาพ่นจมูกหรือหยอดยาจมูก 

ล้างจมูกบ่อยอันตรายไหม 

การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือไม่เป็นอันตราย และยังไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ สามารถล้างจมูกได้ทุกวัน แต่ความคิดเห็นของแพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ล้างจมูกติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลานานเกินไป โดยเฉพาะผู้มีอาการไซนัสอักเสบ เนื่องจากมีการศึกษาและพบว่า ผู้ที่มีอาการโพรงจมูกอักเสบจากไซนัสที่ล้างจมูกติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปี เกิดไซนัสอักเสบซ้ำหรือเพิ่มขึ้นถึง 60% โดยคาดว่าอาจเนื่องมาจากการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือไปลดภูมิป้องกันที่มีอยู่ในเมือกบริเวณโพรงจมูก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบป้องกันเชื้อโรคลดลงไปด้วย จึงแนะนำว่าให้ล้างจมูกได้แต่แบบเว้นระยะบ้าง 

วิธีล้างจมูกที่ถูกต้อง 

  1. อุ่นน้ำเกลือก่อนล้างจมูก เพราะการล้างน้ำเกลือที่ไม่ได้ผ่านการอุ่น อาจทำให้เกิดการคัดจมูกได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนล้างจมูกแล้วไม่โล่ง การอุ่นน้ำเกลือทำโดยเทใส่ภาชนะสะอาด ปากกว้าง และก้นลึก เช่น ถ้วย หรือ ชาม แล้วนำไปอุ่นด้วยไมโครเวฟ 
  2. ทดสอบความอุ่นของน้ำเกลือด้วยการหยดทีหลังมือ อย่าให้ร้อนเกินไป แค่เพียงระดับอุ่นเพียงเล็กน้อย ป้องกันการระคายเคืองขณะฉีดล้างจมูก 
  3. ดูดน้ำเกลือด้วยกระบอกฉีดยาที่สะอาด หรือลูกบีบยางแดง ในปริมาณ 5 ซีซี สำหรับเด็ก และ 10 – 15 ซีซี สำหรับผู้ใหญ่ 
  4. โน้มตัวไปข้างหน้า และก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อให้มีที่สำหรับน้ำเกลือไหลออกมา แล้วไม่หกเลอะตัว 
  5. นำปลายกระบอกฉีดยา หรือลูกยางแดงใส่เข้าจมูกข้างที่มีอาการคัดน้อยกว่า อ้าปากค้างไว้ สูดหายใจเต็มที่และกลั้นหายใจ 
  6. ดันกระบอกฉีดยา หรือ บีบลูกยางแดงเบา ๆ เพื่อให้น้ำเกลือไหลเข้าจมูกช้า ๆ เพื่อไม่ให้สำลัก
  7. เมื่อน้ำเกลือไหลออกมาจากจมูกอีกข้างหนึ่งจึงค่อยคลายจากการกลั้นหายใจ หายใจได้ปกติ 
  8. ทำเช่นเดิมสลับอีกข้าง 

ข้อควรระวัง 

ระหว่างดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกจะต้องกลั้นหายใจตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้สูดเอาน้เกลือลงกล่องเสียงและหลอดลม เพราะจะทำให้สำลักได้ และสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ควรใช้น้ำเปล่าล้างจมูกเด็ดขาด เพราะอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคอะมีบาในน้ำอันตรายถึงตายได้ 

(Visited 225 times, 1 visits today)
Close